ชิบะอินุ (柴犬) ทุกวันนี้เป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น จัดเป็นสุนัขประเภท Spitz ขนาดเล็กที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับอาคิตะอินุที่เป็นสุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่โด่งดังที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในหกสายพันธุ์ของญี่ปุ่นที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติ (天然記念物) ของญี่ปุ่นในวันที่ 16 ธันวาคม 1936 (โชวะปีที่ 11)
ชิบะเป็นสุนัขที่น่าดึงดูดและน่ารักมากจริงๆ ที่จะทำให้คุณยิ้มได้ตั้งแต่แรกเห็นเลย พวกเขามีร่างกายขนาดเล็กน่าเอาใจใส่ มีชีวิตชีวาและแปลกตาด้วยรูปลักษณ์ที่ดูน่ารักเหมือนสุนัขจิ้งจอกและแววตาที่น่ารัก สุนัขตัวนี้มีอุปนิสัยที่ซื่อสัตย์ ภักดี ฉลาดอย่างกล้าหาญ หวงแหน รู้จักแจ้งเตือน คล่องแคล่วว่องไว พวกเขาเป็นศูนย์รวมของวิญญาณที่ดีที่กล้าหาญและตื่นตัว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขามีคุณค่าอย่างมากมาย ยิ่งกว่านั้นชิบะอินุเป็นสุนัขที่สะอาดและชอบดูแลตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งทำให้พวกเขาเหมาะกับสภาพความเป็นอยู่เกือบทุกประเภทรวมถึงอพาร์ทเมนท์ อย่างไรก็ตามแม้ว่ามันอาจดูเหมือนว่านี่คือสัตว์เลี้ยงของครอบครัวที่เชื่อฟังอย่างน่ารักและสงบเรียบร้อย แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วชิบะอินุ เป็นหนึ่งในสุนัขที่ดื้อรั้น รักอิสระ และยังเป็นสุนัขยอดนักคิด ดังนั้นในช่วงแรกนั้นคุณจะต้องอุทิศเวลามากในการฝึกอบรมและการขัดเกลาทางสังคมให้กับพวกเขา…..ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะทำความรู้จักเกี่ยวกับพวกเขา “ชิบะอินุ (柴犬)”
ชิบะอินุ เป็นหนึ่งในสุนัขสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในความเป็นจริงมันเป็นสายพันธุ์พื้นฐานซึ่งหมายความว่ามันมีมาก่อนสายพันธุ์สุนัขที่ทันสมัยทั้งหมดและอาจเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดของสายพันธุ์สุนัขทั้งหมดที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ อาคิตะอินุ (秋田犬), ไคเค็นอินุ (甲斐犬), คิชูอินุ (紀州犬), ชิโกกุอินุ (四国犬) และ ฮอกไกโดอินุ (北海道犬) ชิบะสืบเชื้อสายมาจากสุนัขที่มาพร้อมกับกลุ่มผู้อพยพกลุ่มแรกที่มายังหมู่เกาะญี่ปุ่นประมาณ 7.000 ปีก่อนคริสตกาลตั้งแต่ยุคสมัยโจมง (縄文時代) ที่เรียกว่า โจมงจิน (縄文人) และเรียกสุนัขว่า สุนัขโจมง (縄文犬) จากซากเปลือกหอยต่างๆ และกระดูกสุนัขกว่า 200 ตัวถูกขุดขึ้นมา ทำให้รู้ว่าเป็นกระดูกของสุนัขขนาดกลางที่มีความสูงประมาณ 45 ซม. ไปจนถึงขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณ 40 ซม. และมีโครงสร้างคล้ายกับสุนัขพันธุ์ชิบะปัจจุบัน ต่อมาประมาณ 2.000 ปีก่อนคริสตกาลมีกลุ่มผู้อพยพอีกกลุ่มหนึ่งในช่วงยุคสมัยยาโยอิ (弥生時代) เดินทางมาญี่ปุ่นพร้อมกับสุนัขของพวกเขาที่เรียกว่า สุนัขยาโยอิ (弥生犬) เป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างจากสุนัขสายพันธุ์โจมง เมื่อพวกเขาผสมสายพันธุ์กัน ก่อกำเนิดสุนัขประเภท Spitz ขึ้นมาที่มีลักษณะทางกายภาพชวนให้นึกถึงสายพันธุ์ชิบะในปัจจุบัน เช่น หูแหลมและหางโค้งหรือเคียว ด้วยเหตุนี้ชิบะอินุ จึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขโบราณ – กลุ่มของสุนัขที่รวมสายพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เช่น ไซบีเรียนฮัสกี้, ชามอย, เชาเชา, ซาลูกิ, อาคิตะอินุ, อลาสกัน มาลามูท, ปักกิ่ง ฯลฯ
ชื่อ “ชิบะอินุ (柴犬)” แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Brushwood Dog” และคำว่า “ 柴” เป็นคำในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “พุ่มไม้หรือต้นไม้ที่ใบเปลี่ยนเป็นสีแดงเด่นชัดในฤดูใบไม้ร่วง” จึงสันนิษฐานได้ว่าชื่อดังกล่าวอาจหมายถึงสีที่โดดเด่นที่สุดในสายพันธุ์ (สีแดง) หรือที่จริงแล้วมันบ่งบอกถึงประเภทของภูมิประเทศที่ซึ่งชิบะเคยล่า อย่างไรก็ตามในภาษานากาโนะเก่า (古い長野方言) คำว่า ชิบะ หมายถึง “เล็ก” ซึ่งก็สมเหตุสมผลเช่นกันเพราะนี่เป็นสุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่เล็กที่สุดทั้งหกสายพันธุ์พื้นเมือง และนั่นก็เป็นสาเหตุที่บางครั้งชิบะอินุได้รับการขนานนามว่าเป็น “Little Brushwood Dog“
สุนัขชิบะทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันจริงๆ สืบเชื้อสายมาจากสามสายเลือดที่รอดชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่สองในขณะที่สายพันธุ์ใกล้จะสูญพันธุ์เนื่องจากโรคระบาดครั้งใหญ่, การระเบิด และการขาดแคลนอาหาร ซึ่งสายพันธุ์เหล่านี้ ได้แก่
มิโนะชิบะอินุ (美濃柴犬) สุนัขพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดกิฟุ (岐阜県) ที่มีลักษณะหูหนาแหลมและหางเคียว
ชินชูชิบะอินุ (信州柴犬) สุนัขพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดนางาโนะ (長野県) ที่มีลักษณะคล้ายกับชิบะในปัจจุบันมากที่สุดทั้งในรูปลักษณ์ ขนาด หางโค้ง และหน้าสั้นสีแดง
ซังอินชิบะอินุ (山陰柴犬) สุนัขพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดชิมาเนะ (島根県) และจังหวัดทตโตะริ (鳥取県) จะมีขนาดใหญ่กว่าชิบะในปัจจุบันและมักจะเป็นสีดำกับสีน้ำตาล
ในเวลาต่อมาทั้งสามสายพันธุ์ได้รวมเข้ากลายเป็นสายพันธุ์เดียวคือ ชิบะอินุ (柴犬)
มาตรฐานสุนัขญี่ปุ่น (日本犬標準) ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1934 แบ่งออกเป็นสามประเภท คือ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่โดยสมาคมอนุรักษ์สุนัขญี่ปุ่น (日本犬保存会) ในฐานะ “แสดงแนวทางของสุนัขญี่ปุ่นที่ควรสร้างขึ้นในอนาคตตามลักษณะของสุนัขญี่ปุ่น”และในปี 1936 ญี่ปุ่นประกาศให้ชิบะอินุเป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติ (天然記念物)
แม้ว่าตอนนี้ชิบะจะถูกใช้เป็นสุนัขเลี้ยงก็ตาม แต่แท้จริงแล้วสุนัขเหล่านี้ได้รับการอบรมเพื่อการล่าสัตว์ในตอนกลางวัน พวกเขามีชื่อเสียงในด้านความดื้อรั้น ความอดทนต่อความกลัว ความว่องไว ความมุ่งมั่น ความมั่นใจในตนเอง เป็นอิสระและความภักดีซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับสุนัขล่าสัตว์ที่โดดเด่น พวกมันถูกใช้เพื่อล่าสัตว์ทุกประเภททั้งเล็กและใหญ่ เช่น นก กระต่าย จนถึงหมูป่า และหมี เป็นต้น พวกเขาเป็นนักล่าที่มีทักษะและความสามารถสูงและฉลาดเก่งในการวางแผน
และเช่นเดียวกับสายพันธุ์ญี่ปุ่นพื้นเมืองอื่นๆ ชิบะอินุมีความภักดีและทุ่มเทอย่างมากต่อครอบครัวของเขา สุนัขตัวนี้จะมีชีวิตอยู่เพื่อครอบครัวของเขาอย่างแท้จริง เพื่อเป็นการพิสูจน์เรื่องความภักดีของชิบะจึงมีเรื่องจริงที่น่าสนใจจากญี่ปุ่น กล่าวคือหลังจากแผ่นดินไหว Chūetsu ที่จังหวัดนีงาตะ (新潟県中越地震) ในปี 2004 ชิบะอินุที่ชื่อว่า “มาริ (マリ)” ได้ค้นหาผู้ช่วยชีวิตในหมู่บ้านยามาโคชิ (山古志村) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนางาโอกะ (長岡市) และพาพวกเขาไปที่บ้านของครอบครัวซึ่งถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ หน่วยกู้ภัยเริ่มการขุดทันทีและช่วยชายชราและลูกสาวของเขา (เจ้าของมาริ) ออกจากซากปรักหักพังได้สำเร็จ นี่เป็นตัวอย่างเหตุการณ์ที่พิสูจน์ว่าชิบะอินุช่างภักดีและจงรักเจ้าของของเขาจริงเพียงใด
อีกหนึ่งลักษณะที่แท้จริงที่สุดของสายพันธุ์นี้คือสิ่งที่เรียกว่า “Shiba Scream” เป็นเสียงกรีดร้องแปลกๆ เสียงแหลมสูงที่ดังมากอย่างไม่น่าเชื่อ สุนัขมักจะสร้างมันขึ้นมาเมื่อถูกยั่วยุ ไม่มีความสุข ทำร้าย หรือเพียงแค่ออกมาจากความสุขที่บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้พบกับเจ้านายของเขาหลังจากถูกแยกจากกันเป็นเวลานาน บางครั้งอาจจะดูน่าสะพรึงกลัวหรืออาจจะตลกขำกลิ้ง…ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นะคร้าบผม
ชิบะอินุ ยังเป็นสุดยอดแห่งการหลบหนีที่หาตัวจับได้ยาก หากเขาเบื่อหรือถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังนานๆ สุนัขตัวนี้จะดึงเล่ห์กลที่น่าอัศจรรย์ เพื่อหลบหนี เขาคล่องแคล่วและยืดหยุ่นอย่างเหลือเชื่อและสามารถปีนข้ามรั้วและบีบตัวผ่านรูแคบๆ ได้อย่างง่ายดาย เขายังเป็นผู้ขุดที่ยอดเยี่ยมและสามารถขุดโพรงได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถกัดสายจูงได้อย่างสบายๆ ชิบะอินุ เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีสุขภาพดีโดยมีอายุเฉลี่ย 12 – 15 ปี ตัวผู้มีความสูง 38-41 ซม. และตัวเมียมีความสูง 35-38 ซม.
ด้วยอุปนิสัยต่างๆ ที่กล่าวมานี้เมื่อรวมเข้ากับจิตใจที่ยอดเยี่ยมของเขาแล้ว ย่อมเป็นที่ชัดเจนว่าชิบะอินุเป็นสุนัขที่คุณต้องใช้เวลาอยู่กับเขาดูแลใส่ใจเขาให้มากที่สุด 🙂
ขอบคุณภาพจาก : https://ja.wikipedia.org , https://www.freepik.com , https://www.pinterest.com , https://www.sankei.com , https://grapee.jp