คิชูอินุ (紀州犬) เป็นสุนัขญี่ปุ่นที่มีถิ่นกำเนิดในจังหวัดมิเอะ (三重県) และวากายามะ (和歌山県) มันเป็นสุนัขญี่ปุ่นขนาดกลางหนึ่งในหกสายพันธุ์สุนัขญี่ปุ่นพันธุ์แท้ ได้แก่ อาคิตะอินุ (秋田犬), ไคเค็นอินุ (甲斐犬), ชิบะอินุ (柴犬), ชิโกกุอินุ (四国犬) และฮอกไกโดอินุ (北海道犬) และในวันที่ 1 พฤษภาคม 1934 กระทรวงศึกษาธิการ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษา วัฒนธรรม, กีฬา, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) แต่งตั้งให้คิชูอินุ (紀州犬) เป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติ (天然記念物) ตามกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรม หลังจากอาคิตะอินุ และไคเค็นอินุ ด้วยเหตุผลนี้ทางจังหวัดวากายามะซึ่งเป็นบ้านเกิดของคิชูอินุ จึงมุ่งเน้นไปที่การปกป้องและคุ้มครองคิชูอินุเป็นสำคัญ และคณะกรรมการการศึกษาเมืองวากายามะได้จัดทำ “รางวัลคิชูอินุสุนัขยอดเยี่ยม (優良紀州犬章)” ให้กับสุนัขคิชูซึ่งเป็นสายพันธุ์สุนัขพื้นเมืองที่ดีมากสายพันธุ์หนึ่งของประเทศ
คิชูอินุ (紀州犬) เป็นสุนัขที่ยอดเยี่ยมด้วยลักษณะรูปร่างที่สมส่วนด้วยกล้ามเนื้อหัวขนาดใหญ่ กล้ามเนื้อคางและแขนขาที่ย่างก้าวได้อย่างทรงพลัง มีใบหูเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งชัน และตารูปสามเหลี่ยมที่มีม่านตาออกสีน้ำตาลอ่อนๆ และบนใบหน้าที่มีเส้นจมูกสะอาดอันแสดงถึงลักษณะของสุนัขพื้นเมืองญี่ปุ่นโดยทั่วไป แต่หางของมันกลับเป็นเหมือนหมาป่ามากกว่าหางที่โค้งขดแบบชิบะอินุ และร่างกายก็ปกคลุมไปด้วยขนสองชั้นโดยขนชั้นนอกจะแข็งตรง ขนชั้นในจะนุ่มหนาแน่น ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาจะมีขนสีขาว แต่สีด่างลายเสือและสีงาก็ยังสามารถพบเห็นได้อยู่บ้างเช่นกัน
พวกเขาเหมาะอย่างยิ่งกับการเป็นสุนัขในบ้านที่ได้รับความนิยมยอดฮิตเป็นอันดับสองรองจากชิบะอินุ ด้วยรูปลักษณะท่าทางที่มีความสง่างาม ความมีเกียรติ ความซื่อสัตย์ ที่แฝงอารมณ์ความรู้สึกอันไร้เดียงสาได้อย่างน่ารักมีเสน่ห์ทีเดียว ขณะเดียวกันพวกเขาก็มีความกระตือรือร้น ตื่นตัว และอดทนเป็นยอดกับการอยู่ในบ้านที่ไม่ต้องออกนอกบ้านเลยก็ได้ คิชูอินุมีความรักต่อครอบครัวของพวกเขาเป็นอย่างมากและต้องการอยู่เป็นส่วนหนึ่งในทุกๆ กิจกรรมต่างๆ กับสมาชิกในครอบครัวที่เลี้ยงดูพวกเขา
คิชูอินุ (紀州犬) เป็นสุนัขพื้นเมืองที่มีบทบาทในการล่าหมูป่ามานานหลายศตวรรษในป่ากว้างรอบๆ บริเวณภูเขาคิอิ (紀伊山) ของดินแดนคิอิ (紀伊国) ซึ่งในปัจจุบันคือพื้นที่คุมะโนะที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดวากายามะและมิเอะ (和歌山県~三重県の熊野地方) บรรพบุรุษของพวกเขาถูกกล่าวกันว่าเป็นสุนัขขนาดกลางดั้งเดิมก่อนคริสตกาลเมื่อ 3,000 ปีก่อน และยังเป็นสุนัขพื้นเมืองพันธุ์หนึ่งที่ใช้สำหรับงานต่างๆ มาจนถึงทุกวันนี้ พวกเขาเป็นที่รักของคนรักสุนัขบ้านหลายต่อหลายคนในตอนใต้ของภูมิภาคคินคิ (近畿地方南部) นอกจากนี้ยังมีศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะสำหรับการล่าหมูป่าที่ยังคงมีอยู่ในตอนใต้ของภูมิภาคคินคิอีกด้วย ในการล่าหมูป่าแบบดั้งเดิมนั้นจะใช้นักล่าเจ็ดหรือแปดคนพร้อมปืนล่าสัตว์และสุนัขล่าสัตว์สามหรือสี่ตัว โดยนักล่าแต่ละคนจะเข้าป่าจากเชิงเขาด้านหนึ่งของภูเขาและบุกเข้าไปในป่าโดยอาศัยเสียงในการไล่ต้อนเอา แล้วพวกคิชูอินุตัวผู้จะทำหน้าที่ตามล่าจับหมูป่าจากด้านหน้า โดยมีตัวเมียทำหน้าที่ตามล่าจับจากด้านหลัง
มีตำนานเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์โบราณนี้ว่า ในสมัยเอโดะขณะที่นายยากุโระ (弥九郎) กำลังเดินตรวจบนเส้นทางภูเขาของหมู่บ้านซากาโมโตะดินแดนคิอิ (紀伊国阪本村) ก็ได้พบหมาป่าตัวหนึ่งที่กำลังทนทุกข์ทรมาน จึงเข้าช่วยเหลือด้วยความสงสาร ต่อมาภายหลังเขาก็ได้พบลูกสุนัขหมาป่าอยู่หน้าบ้านของเขาซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นลูกของหมาป่าตัวนั้น นายยากุโระจึงนำลูกสุนัขนั้นมาเลี้ยงและตั้งชื่อ “มัง (マン)” ครั้นเมื่อเจ้าครองนครปราสาทชินงุ (新宮城主) ขณะกำลังออกตามล่าหมูป่าอยู่นั้น ก็ได้เห็น “มัง” คิชูอินุ สุนัขผู้กล้าหาญที่กำลังต้อนไล่ล่าหมูป่าอย่างน่าประทับใจจนเป็นที่มาแห่งชื่อเสียงของเขา และ “มัง” ได้รับการกล่าวว่าเป็นบรรพบุรุษของสุนัขพันธุ์คิชูอินุที่มีสายเลือดจากหมาป่า
ความสูงตัวผู้เฉลี่ย : 20-22 นิ้ว
ตัวเมียเฉลี่ย : 18-20 นิ้ว
น้ำหนักตัวผู้เฉลี่ย : 18-25 กิโลกรัม
ตัวเมียเฉลี่ย : 15-20 กิโลกรัม
อายุขัยเฉลี่ย : 11-13 ปี
ขอบคุณภาพจาก : https://dog-japan.net/ , https://www.akc.org