ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมีรากฐานมานานนับพันปี และในประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้นมีการเน้นย้ำถึงคุณธรรมในการต่อสู้ของซามูไรญี่ปุ่นตามหลัก “บูชิโด (武士道)” มาโดยตลอด นับเป็นเอกลักษณ์แห่งจิตวิญญาณและความภาคภูมิใจแห่งเกียรติยศของคนญี่ปุ่นอย่างชัดเจนจวบจนทุกวันนี้
บูชิโดพูดถึงเกียรติยศแห่งความเป็นซามูไรไว้อย่างเด่นชัด ด้วยหลักการ 7 วิถีของนักรบซามูไรที่น่าเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง และได้ถูกกำหนดให้เป็นตำราเรียนในระดับประถมศึกษา นั่นสะท้อนให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นจะได้รับการถ่ายทอดจิตวิญญาณเหล่านี้ผ่านระบบการเรียนการสอนตั้งแต่อายุยังน้อยๆ
“บูชิโด (武士道)” เป็นที่รู้จักกันในนามของซามูไร ซึ่งรวมถึงพุทธศาสนา ลัทธิขงจื๊อ และหลักการอื่นๆ ของปรัชญาตะวันออก และนี่ยังคงเป็นคำสอนอมตะที่มีค่ายิ่งสำหรับชีวิตของเราแม้แต่ในปัจจุบัน ซึ่งเราก็เป็นคนนึงที่สนใจเรียนรู้ในหลักวิถีนักรบทั้ง 7 จึงอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ…..เราไปเรียนรู้พร้อมกันเลย
1. ความกล้าหาญ (勇)
เป็นคุณธรรมที่จำเป็นแห่งอิสรภาพ ตามที่บูชิโดกล่าวว่าเราสามารถเป็นอิสระได้เมื่อเรามีความกล้าหาญ ความกล้าหาญไม่ได้ถูกผูกไว้ด้วยความกลัว แต่ส่งเสริมการมีชีวิตที่สมบูรณ์ เราต้องกล้าที่จะทำการใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เราต้องทำการตัดสินใจในสิ่งที่ใหญ่กว่า
นอกจากนี้ เราอาจไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าในความกล้าหาญอาจจะยังมีความมืดบอดของความกลัวแฝงอยู่ได้ ฉะนั้น เพื่อความกล้าหาญที่แท้จริง เราต้องมีสติปัญญาและความแข็งแกร่งร่วมด้วย ถึงแม้ว่าความกลัวนั้นจะยังมีอยู่ แต่หากเรามุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายอย่างมีศักดิ์ศรี นั่นหมายถึงความกล้าหาญที่แท้จริงได้เกิดขึ้นแล้ว
2. ความอ่อนน้อม (礼)
ในบูชิโดมารยาทแห่งความอ่อนน้อมไม่เพียงแสดงถึงความมีน้ำใจ ความสุภาพ และความสุจริตเท่านั้น แต่นี่คือคุณธรรมที่มีการเชื่อมต่ออย่างทรงพลังและแข็งแกร่งมากด้วยความเคารพต่อผู้อื่น แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นศัตรูก็ตาม หรืออาจกล่าวได้ว่ามันเป็นคุณธรรมที่แสดงถึงบุคลิกภาพและความแข็งแกร่งภายในของตัวตนเรานั่นเอง
3. มีเมตตา (仁)
ในบูชิโดมีการกล่าวกันว่าคุณควรใช้พลังแห่งความเมตตาและความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อคนอื่น นอกจากนี้ยังให้ความหมายถึงความสมัครสมานกลมเกลียวกันเป็นหนึ่ง และนี่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติหรือความคิดที่รวมอยู่ในส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งของบูชิโด
ความเห็นอกเห็นใจไม่ได้เป็นเพียงแค่อารมณ์ความรู้สึก แต่มันควรนำไปสู่การกระทำที่เป็นรูปธรรม นั่นหมายความว่าเราควรช่วยเหลือทุกครั้งที่เราสามารถช่วยเหลือใครบางคนได้ และถ้าเราไม่มีพลังพอที่จะช่วยเหลือก็ให้พยายามต่อไปโดยไม่ย่อท้อในการที่จะหาหนทางอื่นเพื่อช่วยเหลือด้วยตัวของเราเอง
4. ความยุติธรรม (義)
บูชิโดอธิบายว่าไม่มีความยุติธรรมในโซนสีเทา ด้วยแนวคิดง่ายๆ ในการกำหนดสิ่งที่เหมาะสมและทำสิ่งที่ถูกต้องตามมโนธรรมของตัวเรา แยกแยะ หลีกเลี่ยงการกระทำผิดและสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง และจะถูกลงโทษหากกระทำความผิดหรือกระทำไม่เหมาะสม
คำสอนนี้กระตุ้นให้เราทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ และนั่นไม่ใช่การฟังความฝ่ายใดฝ่ายนึงแต่จะต้องฟังทั้งสองฝ่ายและวิเคราะห์ออกมาให้ถูกต้องเหมาะสม เพราะทุกคนจะสามารถรู้ได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ดังนั้น เราควรค้นหาและติดตามความถูกต้องเหมาะสมนั้นที่อยู่ในตัวเราด้วยตัวเอง
5. ความจงรักภักดี (忠義)
คือพลังและจิตวิญญาณอันสูงส่ง คำพูดหรือการกระทำของใครบางคนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของคนๆ นั้น ดังนั้น เราต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของคำพูดหรือการกระทำของเราเสมอ
ความจงรักภักดี หมายถึง การภักดีต่อตัวเองและยังเป็นความรู้สึกแห่งจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งและมีเกียรติในความสามารถของตัวเรา
6. ความซื่อสัตย์ (誠)
คำว่า “ซามูไร (侍)” มีความหมายมากสำหรับพวกเขา พวกเขาจะไม่พูดเพื่อเป็นการล้อเล่นกันแต่จะพูดออกมาเป็นเรื่องจริงจังและลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองพูด ด้วยเหตุนี้ ในบูชิโด “คำพูด” จึงถูกมองว่ามีความหมายเหมือนกับการกระทำ เมื่อคุณพูดอะไรบางอย่างมันจะเกิดขึ้นเมื่อคุณแสดง
ปรัชญานี้จะไม่หมายความรวมถึง “สัญญา” เพราะเป็นที่รับรู้ว่าการพูดอะไรบางอย่างสำหรับซามูไรแล้วมันก็จะเป็นสัญญาไปในตัวของมันเอง หากเรามีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองและผู้อื่น
7. เกียรติยศ (名誉)
บูชิโดกล่าวว่าคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ “เกียรติยศ” การให้เกียรติหมายถึงการกระทำอย่างซื่อสัตย์ในทุกสถานการณ์และมุ่งเน้นคุณค่าที่เติมเต็มในสิ่งที่เราต้องทำโดยไม่ใช่เป็นการร้องขอจากผู้อื่น
เกียรติยศและความเคารพต่อตนเองนั้น จริงๆ แล้วมันแยกกันไม่ได้ ซึ่งหมายความว่าเราไม่มีส่วนร่วมในการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณหรือไม่น่าไว้วางใจ เกียรติยศเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง ดังนั้นเมื่อกระทำการผิดพลาด วิธีเดียวที่จะฟื้นฟูชีวิตแห่งการมีเกียรติและศักดิ์ศรีกลับมาได้ก็คือการฆ่าชีวิตของตัวเราเองด้วยวิถีแห่งบูชิโดที่เรียกว่า เซ็ปปุคุ หรือ ฮะระคิริ (การคว้านท้องด้วยดาบสั้น)
สาระน่ารู้… ส่วนที่น่าสนใจที่สุดของบูชิโด คือถ้าเราสามารถนำหลักคำสอนมาใช้เป็นหลักคิดอันทรงคุณค่าของความเป็นซามูไรในการปรับจิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์ มาใช้ในเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งหมดบนโลกใบนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าจะแตกต่างจากปัจจุบันที่เป็นอยู่ไม่มากก็น้อย………
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://bushidonow.com , https://kokoronotanken.jp , https://www.pinterest.com , http://universalpeace.co.jp