เพื่อนๆ คงจะยังจำกันได้ถึงรอบปฐมทัศน์โลกของ Supra ใหม่ในงาน Detroit Motor Show ในวันที่ 14 มกราคม 2019 ด้วยโมเดลระดับโลกรุ่นแรกในซีรีย์ GR “Toyota GR Supra” แห่งแรกของโลกที่ได้ถูกเปิดตัวในงาน North American International Auto Show ณ เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา และมีกำหนดวางตลาดในญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019
GR Supra จะเป็นรุ่นแรกของซีรีย์รถสปอร์ต GR ที่พัฒนาโดย TOYOTA GAZOO Racing นับตั้งแต่เข้าร่วมในการแข่งขันทดสอบสมรรถนะความทนทานของรถยนต์ตลอด 24 ชั่วโมงที่สนามแข่งรถ เนือร์บวร์คริง(Nürburgring) ในประเทศเยอรมนีเป็นครั้งแรกในปี 2007 ตลอดเวลาเรามุ่งมั่นใน “การจะทำรถให้ดีขึ้น” และสิ่งที่เรามุ่งหวังคือ “ความสุขสูงสุดในการวิ่ง” โดยการฝึกนักขับขี่และพัฒนารถยนต์ผ่านประสบการณ์จริงในสนามแข่งรถ ด้วยความรู้ที่ TOYOTA GAZOO Racing ได้สะสมมานานหลายปีทำให้ TOYOTA GAZOO Racing ได้เปิดตัว GR Supra ใหม่บนแนวคิดที่สืบทอดกันมาภายใต้เทคโนโลยีล้ำสมัยบนล้อทั้งสองที่ Supra จะวิ่งไปตามทางของเขาที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่าเทรนด์ ได้อารมณ์มากกว่าประสิทธิภาพ และนี่คือหนึ่งในสุนทรียศาสตร์ของความเป็นรถยนต์ที่จะทำให้ทุกคนหลงใหล เพลิดเพลินไปกับการขับขี่ได้อย่างเต็มที่แบบไร้ขีดจำกัด…..”เรื่องราวของ Supra กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง (Supra is back)”
ประธานและซีอีโอบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น นายอากิโอะ โตโยดะ (豊田章男社長) ซึ่งได้ร่วมขับรถในการทดสอบสมรรถนะหลักในการขับขี่ (Master Test Driver) หลายต่อหลายครั้งแล้วได้กล่าวว่า “สำหรับตัวผมแล้ว “Supra” ก็เหมือนกับ “เพื่อนเก่าคนพิเศษ” ที่เราได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างนานมากในการฝึกขับรถที่สนามแข่งรถเนือร์บวร์คริง (Nürburgring) ซึ่งในเวลานั้นมีผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นก็ได้นำรถต้นแบบก่อนเปิดตัวมาลงวิ่งบนสนามแข่งเนือร์บวร์คริง (Nürburgring) ในขณะที่เราทำได้เพียงขับขี่บน Supra ตัวเก่าซึ่งไม่มีการผลิตอีกต่อไป มันช่างเป็นความรู้สึกที่น่าผิดหวังมาก ไม่เพียงแต่ผมเท่านั้น เหล่าสาวกและบรรดาแฟนๆ หลายคนก็รู้สึกไม่ต่างกัน ในที่สุดผมบอกกับตัวเองว่า ผมยังต้องการที่จะ “ฟื้นฟู Supra อย่างลับๆ ต่อไป” และ GR Supra เป็นรถยนต์ที่เกิดและถูกฝึกฝนให้แข็งแกร่งด้วยความสุขสูงสุดแห่งการวิ่งบนสนามแข่งรถเนือร์บวร์คริง (Nürburgring) มาโดยตลอดอย่างแท้จริง และด้วยเหตุนี้ Supra ใหม่ จึงมิได้เป็นเพียงแค่รถสปอร์ตที่ขับสนุก แต่เป็นยนตรกรรมที่ดีขึ้นในทุกมิติ”
GR Supra เป็นรุ่นที่ 5 และกลับมาอีกครั้งที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิมหลังจากห่างหายไปเป็นเวลา 17 ปีนับตั้งแต่สิ้นสุดการผลิตในปี 2002 ตั้งแต่ Supra คันแรกที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1978 ที่มันกลายเป็นเอกลักษณ์สำหรับทุกคนของการเป็นรถนต์ FR ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์วางหน้า 6 สูบเรียง ซึ่งในรุ่นใหม่นี้เราก็ได้สืบทอดของสองสิ่งนี้ไว้เช่นกัน นอกจากนี้แล้ว ในครั้งนี้เรายังเพิ่มการมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบพื้นฐานสามประการของ “ฐานล้อ“, “ดอกยาง” และ “จุดศูนย์ถ่วงสูง” ด้วยการตระหนักถึงประสิทธิภาพการจัดการที่เหมาะสมสำหรับรถเพียวสปอร์ต (Pure Sport Car) หรือรถสปอร์ตสายพันธุ์แท้
โดย Toyota GR Supra ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Condensed Extreme” ซึ่งเป็นการออกแบบที่มุ่งเน้นการจัดสรรองค์ประกอบและมิติต่างๆ ของตัวรถไม่ว่าจะเป็นความยาวของตัวรถ ระยะฐานล้อ ไปจนถึงการวางตำแหน่งของล้อและยางให้ส่งเสริมสมรรถนะอันโดดเด่นของรถสปอร์ต และการออกแบบขนาดห้องโดยสารที่พอเหมาะลงตัวกับตำแหน่งตัวรถที่กดต่ำและหนักแน่น ส่งผลให้รถมีการบังคับควบคุมและมีเสถียรภาพในระดับสูง
เท็ตสึยะ ทาดะ (多田哲哉) หัวหน้าวิศวกรที่รับผิดชอบด้านการพัฒนา All NEW Supra (A90) ที่ใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ BMW Z4 (G29) และกลายเป็นรถยนต์คู่แรกที่ถือกำเนิดขึ้นจากข้อตกลงร่วมพัฒนารถสปอร์ต ซึ่งจะแตกต่างกันที่รูปแบบตัวถัง โดย Toyota Supra จะเป็นแบบ Coupe ส่วน BMW Z4 (G29) จะเป็นตัวถังแบบเปิดประทุน เขาได้กล่าวว่า “เราไล่ล่าตามรถสปอร์ตสายพันธุ์แท้ที่ขับขี่ได้อย่างสนุกมาก เพราะแทนที่เราจะมุ่งเฉพาะตัวเลขอย่างเช่น แรงม้าและรอบเวลาของอัตราการเร่ง แต่เราสู้ไปมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพในการรับรู้ว่าผู้ขับขี่จะสามารถเพลิดเพลินไปกับความสุข ความสนุกในช่วงของการขับขี่ด้วยยานพาหนะนั้นได้อย่างไร จะเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่า”
ประวัติรุ่นสู่รุ่นของ GR SUPRA
ด้วยดีกรีดีเอ็นเอสายตรงจากยนตรกรรมระดับตำนานอย่าง 2000 GT ทำให้ Supra ทุกรุ่นมีองค์ประกอบหลักสำคัญที่เหมือนกัน นั่นคือเครื่องยนต์วางหน้า 6 สูบเรียง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และโครงสร้างรถที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย “Supra” เป็นรถที่สะท้อนความเป็นรถเพียวสปอร์ต (Pure Sport Car) หรือรถสปอร์ตสายพันธุ์แท้ที่มีสมรรถนะเยี่ยมของค่ายรถโตโยต้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะผ่านไปกี่รุ่นก็ตาม
โดยเริ่มต้นจากการพัฒนา Supra รุ่นแรก “Celica” โดยวิศวกรของโตโยต้า ได้ใช้ Celica Liftback มาเป็นโมเดลเริ่มต้นของ Supra รุ่นแรกในปี 1978 ภายใต้ชื่อรุ่นว่า “Toyota Celica A40” โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวโครงสร้างรถที่ยาวขึ้นกว่าเดิม พร้อมเครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทั้งความสะดวกสบายและเทคโนโลยีสำหรับรถสปอร์ตสุดหรูในยุคนั้น
Supra รุ่นที่ 2 “Celica A60” คือสัญลักษณ์แห่งยุค 80 ที่มีความโดดเด่น เป็น Celica ในเวอร์ชั่นที่ล้ำไปอีกขั้น ด้วยการมี 2 สไตล์ให้เลือกตามรสนิยม คือ L-type สไตล์หรู และ P-type สำหรับคนที่ชื่นชอบในสมรรถนะโดยเฉพาะ เรียกได้ว่า P-type คือชิ้นงานที่แสดงออกถึงความทุ่มเทของ Supra เพื่อให้เป็นยนตรกรรมแห่งสมรรถนะแบบจัดเต็ม ด้วยหน้ายางและล้อขนาดใหญ่ คิ้วล้อไฟเบอร์กลาสและชุดแต่งแอโรไดนามิค แต่ยังคงกลิ่นอายของเส้นสายที่แสนจะโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าป็อพอัพ
การเปิดตัว Supra รุ่นที่ 3 “Supra A70” ในปี 1986 ของทั่วโลก ยังถือเป็นการเปิดตัว Supra ครั้งแรกในญี่ปุ่นอีกด้วย และรุ่นนี้ได้ทำให้ Supra กลายเป็นโมเดลที่แยกตัวออกจาก Celica อย่างชัดเจน ด้วยดีไซน์ที่คิดขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ทำให้วิศวกรโตโยต้าสามารถคิดสร้างสรรค์ยนตรกรรมนี้จากโครงสร้างพื้นฐานของรถเพื่อตอบสนองด้านสมรรถนะโดยเฉพาะ A70 จึงถือว่าเป็นรุ่นที่เกิดขึ้นในฐานะยนตรกรรมแห่งเทคโนโลยี และเป็น Supra โมเดลแรก ที่มีเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ พร้อมระบบอัดอากาศแบบแปรผันช่วยเพิ่มกำลังและระบบกันสะเทือนแบบปรับด้วยระบบไฟฟ้า
รถสปอร์ต “Supra A80” นับเป็นรุ่นที่ 4 ของ Supra อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความโดดเด่นผสมสานสุดล้ำด้วยรูปลักษณ์ สไตล์ เทคโนโลยี และสมรรถนะ เป็นยนตรกรรมที่อยู่เหนือกาลเวลาอย่างแท้จริงมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะเสน่ห์ของ A80 ก็ยังทำให้เราฟินได้ถึงความทันสมัยเหมือนเมื่อครั้งเปิดตัวในปี 1993 เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ทั้งจากเครื่องยนต์ 2JZ อันแสนเร้าใจ และการออกแบบที่ลงตัวสุดๆ
ตำนานรีเทิร์น
การที่จะปลุกตำนานให้กลับมาอีกครั้ง ประธานและซีอีโอบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น นายอากิโอะ โตโยดะ (豊田章男社長) จึงร่วมขับรถกับทีมนักแข่งของโตโยต้า เพื่อทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งในสนามแข่งรถและบนถนนที่มีสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย
GR Supra กลับมาที่ญี่ปุ่นแล้วภายใต้ชื่องานว่า Supra is back to Japan Fes ด้วยการเปิดตัวอย่างอลังการไปเมื่อวันที่ 17 – 19 พฤษภาคม 2019 เป็นเวลา 3 วันเต็ม ในโอไดบะโตเกียว (東京・お台場) เพื่อตอบสนองบรรดาแฟนๆ ที่เฝ้ารอการเปิดตัว Supra ใหม่อย่างตื่นเต้นหลังจากที่มีการแจ้งกำหนดการวางตลาดในญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2019
Toyota GR Supra รุ่นปี 2020 ได้ถูกประกาศราคาตามแต่ละรุ่นแล้วในสหรัฐอเมริกา โดยแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ดังนี้
- 3.0 ราคา 49,990 ดออลาร์ (ประมาณ 1.58 ล้านบาท)
- 3.0 Premium ราคา 53,990 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.70 ล้านบาท)
- Launch Edition ราคา 55,250 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.75 ล้านบาท)
นายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำเข้า Toyota GR Supra รุ่นปี 2020 ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 เทอร์โบ 340 แรงม้า มาจำหน่ายในไทย ด้วยราคาอย่างเป็นทางการที่ 4,999,000 บาท ซึ่งได้ประกาศออกมาเมื่อปลายพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา แล้วทางบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จะจัดแคมเปญ Toyota GR Supra 2020 มาให้นักขับชาวไทยที่เน้นสุนทรียะทางอารมณ์ในการขับขี่มากกว่าความแรงของพลังอันดุเดือดหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป….
GR SUPRA คือรถยนต์ที่จะเล่าขานตำนานบทต่อไปของโตโยต้า…..”Supra is back.”
ขอบคุณภาพจาก : https://toyota.jp , https://toyotagazooracing.com , https://www.grandprix.co.th , https://car.kapook.com , http://tech-racingcars.wikidot.com , https://carbuzz.com , http://www.headlightmag.com