ชาวญี่ปุ่นเริ่มถกกันมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงปัญหาว่ารัฐบาลจะปฏิบัติต่อคนจีนด้วยเงินสาธารณะ (公金) ของประเทศหรือไม่ อย่างไร? แล้วด้าน “ข้อจำกัดการเข้าเมือง (入国制限)” จะเป็นอย่างไร และค่าธรรมเนียมการรักษาที่จะเรียกเก็บจากสถานทูตจีนทำได้หรือไม่…..
ในขณะที่การแพร่กระจายของโรคปอดอักเสบ (肺炎) ที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าชนิดใหม่ (新型コロナウイルス) ในอู่ฮั่นมณฑลหูเป่ยประเทศจีนก็ยังไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งมันได้ภายในเร็ววัน
การระบาดของโรคนอกเหนือจากจีนแผ่นดินใหญ่ ได้กระจายออกไปทั่วทุกมุมโลกอย่างรวดเร็ว รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาให้มีการระงับการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ และในวันเดียวกันสายการบินบริติชแอร์เวย์ส (BA) ก็ออกมาประกาศว่าระงับเที่ยวบินแบบไม่หยุดระหว่างอังกฤษและจีนแผ่นดินใหญ่ทุกเที่ยวบิน และจากแหล่งข้อมูลฐานเศรษฐกิจ ณ วันที่ 31 มกราคม 2563 มีการยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อในเอเชียที่ญี่ปุ่น 14 คน ประเทศไทย 14 คน สิงคโปร์ 13 คน ฮ่องกง 11 คน ไต้หวัน 9 คน ออสเตรเลีย 9 คน มาเลเซีย 8 คน มาเก๊า 7 คน เกาหลีใต้ 6 คน เวียดนาม 5 คน เนปาล 1 คน ศรีลังกา 1 คน อินเดีย 1 คน กัมพูชา 1 คน ฟิลิปปินส์ 1 คน จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในอเมริกาเหนือในสหรัฐอเมริกา 5 คนและอีก 3 คนในแคนาดา ในยุโรปพบที่ฝรั่งเศส 6 คน เยอรมนี 5 คนและอิตาลี 2 คน และในเอเชียตะวันออกกลางพบผู้ติดเชื้อที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 4 คน
ภายใต้สถานการณ์ที่ระบาดอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงประกาศเตือนการระบาดของโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าชนิดใหม่เป็นภัยพิบัติฉุกเฉินระดับโลกในวันที่ 31 มกราคม 2563
ในอีกด้านหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นพบว่ามีคนญี่ปุ่นที่ติดเชื้อทั้งๆ ที่ไม่เคยเดินทางไปอู่ฮั่นเลย และในวันที่ 29 มกราคม 2563เที่ยวบินกลับเที่ยวแรกของญี่ปุ่นจากอู่ฮั่นมาถึงที่สนามบินฮาเนดะ รัฐบาลจึงได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มโรคปอดอักเสบชนิดใหม่ลงในรายการโรคติดเชื้อควบคุมที่กำหนด
เมื่อดูการรับมือของประเทศญี่ปุ่นจะแตกต่างจากประเทศอื่นอย่างชัดเจนใน 2 วิธี คือ ประการแรกญี่ปุ่นไม่ได้กำหนดข้อจำกัดใดๆ ในการเข้าจากประเทศจีน อย่างสหราชอาณาจักร ฮ่องกง ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเข้าเมืองและการรับรู้ผู้ลี้ภัย (พระราชบัญญัติควบคุมการเข้าเมือง) ที่จะสามารถปฏิเสธการลงจอดสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อควบคุมที่กำหนดและผู้ที่มีการติดเชื้อใหม่ แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ปฎิเสธอันอาจกลายเป็นการตัดสินใจโดยประมาทหรือง่ายเกินไปก็ได้เมื่อเทียบกับมาตรการของประเทศอื่นๆ ที่กล่าวถึงข้างต้น…เพราะนี่อาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศญี่ปุ่นเอง
ประการที่สอง จากผลของการกำหนดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคปอดอักเสบชนิดใหม่ที่ได้รับการคุ้มครองจากกองทุนเงินสาธารณะ (公的資金) การกำหนดมาตรการข้อนี้ก็ดีอยู่ แต่ไม่มีระบุสัญชาติในการใช้บริการ หากนักเดินทางชาวจีนป่วยและได้รับการรักษาที่สถาบันทางการแพทย์ของญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายก็จะถูกจ่ายจากกองทุนเงินสาธารณะของญี่ปุ่น
จากสถานการณ์การระบาดเข้าในญี่ปุ่นของไวรัสใหม่ที่ยังไม่หยุดและเงินของประชาชนญี่ปุ่นก็ไหลออกตามมาตรการดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ดีเหมาะสมสำหรับญี่ปุ่นจริงหรือ !?
ขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com